ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ พระราม2

สำหรับลูก หรือ หลาน ที่ไม่ค่อยมีเวลาในการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน นั้นอาจจะมีความกังวลใช่ไหมครับ ? ว่าเราจะทำอย่างไร เราจะพูดกับผู้สูงอายุอย่างไร ถ้าหากเรามีความคิดจะพาเขาไปดูแลที่ศูนย์ดูและผู้สูงอายุ  วันนี้เรามีวิธีสำหรับการเตรีมตัว และจะต้องสื่อสารกันอย่างไรเพราะบางทีผู้สูงอายุบ้านเราอาจจะน้อยใจก็ได้นะครับ ลองมาดูวิธีกันดีกว่า

พูดตรง ๆ

                สำหรับวิธีแรกนั้นคือให้เราพูดตรง ๆ เลยว่าเราจะพาเขาไปดูแลใกล้บ้าน ๆ นะครัยยกตัวอย่างเช่น หากพักอยู่พระรามก็อาจจะพาไปศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ พระราม2 ที่เดินทางสะดวก ด้วยอาจจะตกลงกันแบบไปเช้าเย็นกลับก็ได้ แต่เราจะต้องบอกเหตุผลในการพาไปด้วยว่าเราพาไปด้วยเหตุผลเราไม่มีเวลา กลัวเกิดอะไรขึ้นกับตัวผู้สูงอายุเอง  เพราะเป็นห่วง ถึงจะพาไป แต่ว่าก่อนจะพาเขาไปต้องทำให้มั่นใจด้วยนะครับว่าหากไปแล้วเขาจะได้รับการดูแลอย่างดี

ถามว่าเหงาไหม

                ผู้สูงอายุทุกคนนั้นมี “ความเหงา” ในตัวครับ เพราะผู้สูงอายุนั้นจะใช้ชีวิตอยู่ในบ้านและมองดูลูกหลาน ออกไปทำงาน ดังนั้นไม่แปลกที่ผู้สูงอายุจะเหงา โดยเราอาจจะแกล้ง ๆ ถามว่า จะพาไปศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ พระราม2 หรือ ใกล้ ๆ บ้านของเราจะยอมไปด้วยกันไหม ?  โดยบอกว่าจะมีเพื่อนเล่นเพื่อนคุย มากขึ้นพร้อมบอกเหตุผลว่าตัวเองไม่มีเวลาดูและ กลัวเกิดอะไรขึ้นแล้วไม่มีคนดูแล  เลยเลือกจะพามาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ พระราม2 หรือศุนย์อื่นที่ใกล้ ๆ บ้าน โดยในเรื่องของการไปอยู่นั้นจะเลือกแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือ เหมาแบบรายเดือนอันนี้ต้องคุยกันนะครับ

จ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุติดบ้านแทน

                สุดท้ายถ้าผู้สูงอายุของเราเลือกไม่ไปจริง ๆ ทางเลือกสุดท้ายนั้นคือเราจะให้ตัวเขาได้อยู่บ้านเลย โดยเราจะจ้าง คนดูแลผู้สูอายุตามบ้านมาไว้ให้ ซึ่งราคาก็แตกต่างกัน แต่ในการจ้างเราจะต้องเช็คคนนิดหนึ่งนะครับ เพราะการที่จะจ้องแบบนั้นหมายความว่าจะมีคนเข้า-ออกบ้านเราได้ตามใจชอบทั้ง ๆ ที่เราไม่รู้จักดังนั้นการเช็คอดีต การถามประวัติ คอยสังเกตความน่าไว้ใจเองก็เป็นสิ่งสำคัญนะครับ จะได้ปลอดภัยทั้งผู้สูงอายุและทรัพย์สินของเรา

                สำหรับใครที่คิดไม่ออก ลองเอสวามวิธีนี้ไปลองดูก็ได้นะครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าไปบังคับ หรือ ฝืน พาเขาไปนะครับ ผู้สูงอายุนั้นมีสภาวะอารมณ์ที่แปรปวนอยู่ เดี๋ยวแกน้อยใจเอาเข้านะครับ