ตำนานขนมไทย

หากว่ากันด้วยเรื่องของ “ขนมไทย” นอกจากความอร่อยแล้ว ก็มักจะถูกใช้ในพิธีกรรมเพื่อความเป็นสิริมงคลต่างๆ มากมาย อีกทั้งขนมบางชนิดยังมีประวัติอันยาวนานมากกว่าที่เราคาดคิดอีกด้วยครับ บทความนี้จะขอพาท่านผู้อ่านไปพบกับ “ประวัติของขนมไทยที่น่าสนใจ” และ “เช็คชนมไทยมงคล” กันครับ จะมีขนมอะไรบ้างนั้น เราไปดูกันดีกว่าครับ

เปิดประวัติ ขนมไทย

ขนมไทย มีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยคือ มีความละเอียดอ่อนประณีตในการเลือกสรรวัตถุดิบ วิธีการทำ ที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อยหอมหวาน สีสันสวยงาม รูปลักษณ์ชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีที่ประณีตบรรจง จึงทำให้ใครหลายๆ คนรวมไปถึงชาวต่างชาติชอบรับประทานกัน

ในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เป็นต้นว่างานทำบุญ งานแต่ง เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญ เพราะขนมบางชนิดจำเป็นต้องใช้กำลังคนอาศัยเวลาในการทำพอสมควร ส่วนใหญ่เป็น ขนบประเพณี เป็นต้นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมครก ขนมถ้วย ฯลฯ ส่วนขนมในรั้วในวังจะมีหน้าตาสวยงาม ประณีตวิจิตรบรรจงในการจัดวางรูปทรงขนมสวยงาม

ขนมไทยดั้งเดิม มีส่วนผสมคือ แป้ง น้ำตาล กะทิ เท่านั้น ส่วนขนมที่ใช้ไข่เป็นส่วนประกอบ เช่น ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน นั้น มารี กีมาร์ เดอ ปีนา (ท้าวทองกีบม้า) หญิงสาวชาวโปรตุเกส เป็นผู้นำสูตรมาจากโปรตุเกส

5 ขนมไทยเพิ่มสิริมงคลในชีวิต

ทองหยิบ  ซึ่งการได้ “หยิบ” ความร่ำรวยย่อมเป็นสิ่งที่คู่รักข้าวใหม่ปลามันทั้งหลายปรารถนา และเพื่อการันตีว่าตลอดการใช้ชีวิตคู่ พวกเขาจะสามารถ “หยิบ” ความร่ำรวยได้ การให้ขนมทองหยิบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการอวยพรให้บ่าวสาวให้มีความร่ำรวยตลอดไปทองหยิบ

ทองหยอด เหมาะสำหรับใช้ในการแต่ง เป็นขนมชนิดนี้มีลักษณะเป็นหยดน้ำสีทอง ทำจากไข่แดง มีรสหวาน ถือเป็นของขวัญที่อวยพรให้ผู้รับ มีทรัพย์สินเงินทอง สามารถใช้ชีวิตคู่ได้ตลอดรอดฝั่ง

ฝอยทอง เหมาะสำหรับใช้ในงานแต่ง เป็นขนมชนิดนี้มีลักษณะเป็นเกลียวเส้นสีทอง ทำจากไข่แดง โดยนำไปคลุกเคล้ากับน้ำเชื่อมที่ต้มจนเดือด จากนั้นจึงม้วนเป็นขดก่อนบรรจุลงกล่องเพื่อจัดจำหน่าย การมอบฝอยทองให้กับคู่บ่าวสาวสื่อถือความห่วงใยแสนพิเศษเนื่องจากแต่ละเกลียวเส้นของขนมนั้นมีความยาวไม่มีที่สิ้นสุด

ทองเอก ด้วยเอกลักษณ์การตกแต่งด้วยใบไม้ทองคำบนตัวขนม ทองเอก ถือเป็นราชินีแห่งมวลขนมไทยมงคลทั้งปวงทั้งยังโดดเด่นกว่าขนมตระกูล “ทอง” อื่น ๆ โดยใบไม้ทองคำที่ประดับอยู่นั้นหมายถึง ความรุ่งเรืองในอาชีพการงาน การเลื่อนขั้น และความสำเร็จใจการเจรจาธุรกิจต่างๆ

เสน่ห์จันทน์ เป็นขนมไทยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากลูกจันทน์ซึ่งเป็นผลไม้ขนาดเล็กสีเหลืองสกาว ขนมชนิดนี้ทำจากไข่แดงและแป้งผสานเข้ากับลูกจันทน์สีเหลืองสด คำว่า “เสน่ห์”  ในชื่อของขนมชนิดนี้สื่อความหมายว่าทั้งคู่บ่าวสาวจะกลายเป็นที่รักของทั้งสมาชิกในครอบครัวและมิตรสหายของอีกฝ่ายตราบนานเท่านาน

วิธีการทำขนมฝอยทอง

เมนูขนมหวานที่ได้สีเหลืองทองสวยจากไข่แดง โดยเคล็ดลับของความอร่อยของฝอยทองคือจะต้องม้วนตัวให้เรียงเป็นเส้นสวย ดังนั้นขั้นตอนในการทำฝอยทองจะต้องอาศัยความพิถีพิถันและความอดทนพอประมาณเลยหล่ะครับ

ส่วนผสมฝอยทอง

ไข่แดงของไข่เป็ด 6 ฟอง

ไข่แดงของไข่ไก่ 3 ฟอง

น้ำเปล่า 1 ลิตร

น้ำตาลทราย 1 กก.

กลิ่นมะลิ

ไม้ปลายแหลม

ขั้นตอนการทำฝอยทอง

●แยกไข่ขาว และไข่แดงออกจากกันทั้งไข่เป็ดและไข่ไก่ โดยกรองไข่แดงทั้งหมดด้วยผ้าขาวบาง ให้ได้ไข่แดงที่ละเอียด เพื่อฝอยทองที่เส้นสวย แนะนำให้กรอง 2-3 ครั้ง

●นำหม้อใส่น้ำเปล่า และนำขึ้นตั้งไฟโดยใช้ไฟกลาง แล้วจึงใส่น้ำตาล กลิ่นมะลิ คนไปเรื่อยๆ จนน้ำตาลละลายเริ่มละลายจึงใช้ไฟอ่อน

●คนไปเรื่อยๆ จนน้ำตาลเริ่มมีความข้นเป็นน้ำเชื่อม และเมื่อน้ำเชื่อมในกะทะมีลักษณะเป็นน้ำพุ ให้ใช้กรวยโรยไข่แดงลงไป ให้เป็นวงกลม โดยหากโรยสูงจะได้ฝอยทองเส้นเล็ก แต่หากโรยแบบต่ำจะได้ฝอยทองเส้นใหญ่ ให้โรยวนไปเรื่อยๆ ซ้ำทางเดิมประมาณ 20 รอบ

●จากนั้นให้ใช้ไม้ปลายแหลมเกี่ยวเส้นไข่ที่สุกแล้วไปนำไปวนในน้ำเชื่อม พร้อมกับนำเส้นฝอยทองมาพักบนตระแกรงให้สะเด็ดน้ำเชื่อมออกและนำฝอยทองที่ได้มาม้วนให้เป็นก้อนพอดีคำ พร้อมจัดเสิร์ฟ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ “ตำนานขนมไทยที่น่าสนใจ” ที่เราได้นำมาฝากท่านผู้อ่านที่สนใจกันในบทความนี้ เจอขนมที่อยากรับประทานกันบ้างหรือยังครับ สุดท้ายนี้ขนมหวานก็ควรทานแต่พอดีๆ กันนะครับ เพื่อสุขภาพที่ดีครับ